คู่มือเลือกเฟอร์นิเจอร์สำนักงานไม้สัก ครบจบสำหรับออฟฟิศทุกขนาด

ในโลกธุรกิจที่ต้องแข่งขันกันด้วยความรวดเร็วและประสิทธิภาพ การตกแต่งออฟฟิศไม่ได้เป็นเพียงแค่การจัดสรรพื้นที่ให้ใช้งานได้เท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือและเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ร่วมงานอีกด้วย การลงทุนในเฟอร์นิเจอร์สำนักงานที่ดีจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว และหนึ่งในวัสดุที่ได้รับการยอมรับมายาวนานในเรื่องของความแข็งแรง ทนทาน และความสวยงามเหนือกาลเวลา นั่นคือ ไม้สัก

บทความนี้คือคู่มือฉบับสมบูรณ์ ที่จะช่วยให้คุณสามารถเลือกเฟอร์นิเจอร์ไม้สักสำหรับสำนักงานได้อย่างมืออาชีพ ไม่ว่าออฟฟิศของคุณจะมีขนาดเล็กกะทัดรัด หรือเป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการความภูมิฐาน

เหตุผลที่ไม้สักคือการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับสำนักงาน

ก่อนที่จะเจาะลึกวิธีการเลือกเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้น ลองมาทำความเข้าใจก่อนว่าทำไมไม้สักจึงเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ที่มาเหนือกว่าไม้ประเภทอื่น ๆ สำหรับเฟอร์นิเจอร์สำนักงาน

• ความแข็งแรงและทนทาน: ไม้สักขึ้นชื่อเรื่องความทนทานสูง ทนต่อการใช้งานหนัก แตกหักยาก และมีอายุการใช้งานยาวนานหลายสิบปี ทำให้เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย

• ความต้านทานต่อปลวกและแมลง: ด้วยคุณสมบัติทางธรรมชาติที่มีน้ำมันในตัว ไม้สักจึงมีความสามารถในการต้านทานปลวก มอด และแมลงอื่น ๆ ได้ดีกว่าไม้ชนิดอื่น ๆ

• ความสวยงามและลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์: ลายไม้สักมีความสวยงามเฉพาะตัว ให้ความรู้สึกอบอุ่น แต่ก็ยังคงความสง่างาม ความเข้มของสีจะสวยงามยิ่งขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป และสามารถเข้าได้กับสไตล์การตกแต่งออฟฟิศได้หลากหลาย ไม่ว่าจะแบบคลาสสิกหรือโมเดิร์น

• เป็นไม้มงคลเสริมบารมี: ในความเชื่อดั้งเดิม คำว่า "สัก" พ้องเสียงกับคำว่า "ศักดิ์" จึงเชื่อกันว่าไม้สักจะช่วยเสริมเรื่องยศถาบรรดาศักดิ์ อำนาจ และบารมีให้กับผู้ใช้งาน

ขั้นตอนการเลือกเฟอร์นิเจอร์สำนักงานไม้สักอย่างมืออาชีพ

เมื่อเข้าใจคุณสมบัติเด่นของไม้สักทั้งเรื่องความทนทาน ความสวยงาม และความมงคลแล้ว ขั้นต่อไปคือการลงมือเลือกอย่างมีระบบ เพื่อให้ได้เฟอร์นิเจอร์ออฟฟิศที่เข้ากับการทำงาน พื้นที่ และสไตล์ของทีมมากที่สุด 

ด้านล่างนี้คือ 6 ขั้นตอนสำคัญที่คัดมาแบบใช้งานได้จริง ช่วยให้คุณตัดสินใจได้มั่นใจยิ่งขึ้น และวางแผนจัดสรรงบประมาณได้คุ้มค่ากับทุกตารางเมตรของที่ทำงาน

1. กำหนดสไตล์และสร้างบรรยากาศของออฟฟิศ

ก่อนเลือกซื้อ ให้เริ่มจากมองภาพใหญ่ของการตกแต่งออฟฟิศที่อยากได้ แล้วค่อยเลือกชิ้นเฟอร์นิเจอร์ให้สอดรับกัน เช่น

• เน้นความทันสมัย (Modern): หากคุณต้องการบรรยากาศที่คล่องตัวและร่วมสมัย ให้เลือกโต๊ะทำงานไม้สักโมเดิร์นเรียบง่ายเพื่อความโปร่งและเบาตา เหมาะสำหรับบริษัทสตาร์ทอัพหรือสายงานครีเอทีฟ

โต๊ะทำงานโมเดิร์น AT045 (อ่านรายละเอียดสินค้า)

• เน้นความภูมิฐาน (Classic): สำหรับองค์กรที่ต้องการความน่าเชื่อถือและความหรูหราแบบดั้งเดิม ควรเลือกโต๊ะทํางานออฟฟิศไม้สักที่มีการแกะสลักอย่างประณีต หรือมีดีไซน์ที่ดูหนักแน่น เหมาะสำหรับสำนักงานกฎหมาย สถาบันการเงิน หรือห้องทำงานผู้บริหารระดับสูง

โต๊ะทำงานไม้สัก AT005 (อ่านรายละเอียดสินค้า)

2. วางแผนเลือกเฟอร์นิเจอร์สำนักงานตามฟังก์ชันพื้นที่

การกำหนดฟังก์ชันการใช้งานของแต่ละโซนในออฟฟิศ คือสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีเฟอร์นิเจอร์อำนวยความสะดวกครบครันในพื้นที่ต่าง ๆ

• โซนต้อนรับ (Reception): จุดแรกที่ลูกค้าและแขกของบริษัทเข้ามาติดต่อ เป็นหน้าตาและภาพลักษณ์ขององค์กร ควรมีเคาน์เตอร์ต้อนรับ, โลโก้บริษัท, พื้นที่รอรับแขก พร้อมที่นั่งสบาย ๆ

โซฟาไม้สัก SO019 (อ่านรายละเอียดสินค้า)

• โซนทำงานหลัก (Workstation / Focused Work Zone): พื้นที่สำหรับพนักงานในการทำงานประจำวัน มักเป็นบริเวณที่ใช้เวลาอยู่มากที่สุด ควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีฟังก์ชันครบครัน เช่น โต๊ะทำงานไม้สักที่มีลิ้นชักหรือช่องเก็บของในตัว เพื่อประหยัดพื้นที่ เน้นความกะทัดรัดและสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย

โต๊ะทำงานไม้สักตัวแอลมินิมอล AT100 (อ่านรายละเอียดสินค้า)

• โซนทำงานร่วมกันและการประชุม (Collaboration & Meeting Zone): พื้นที่ที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการทำงานเป็นทีม การระดมสมอง และการประชุม ควรมีโต๊ะสำนักงานสี่เหลี่ยม พร้อมเก้าอี้ที่นั่งสบายและเคลื่อนย้ายได้ง่าย เหมาะสำหรับการประชุมสั้น ๆ หรือการระดมความคิดแบบไม่เป็นทางการ

ชุดโต๊ะไม้สักท๊อปหินอ่อนสังเคราะห์ DS243 (อ่านรายละเอียดสินค้า)

• โซนห้องผู้บริหาร (Executive Zone): โต๊ะทํางานไม้สักผู้บริหาร ควรมีขนาดใหญ่พอที่จะสะท้อนถึงอำนาจและความมั่นคง มีพื้นที่สำหรับการวางเอกสารหรือรับรองแขกได้ โดยที่ยังมีพื้นที่เหลือเฟือรอบโต๊ะ พร้อมเสริมด้วยชั้นวางหนังสือไม้สักที่มีดีไซน์เข้าชุดกัน

โต๊ะทำงานผู้บริหารไม้สักแท้ AT042 (อ่านรายละเอียดสินค้า)

• โซนส่วนกลาง (Common Zone): ควรมีชั้นวางของสำนักงานแบบเปิดสำหรับวางอุปกรณ์สำนักงาน เน้นความสะดวกในการหยิบจับและเติมของ หรือตู้เก็บของไม้สักแบบมีช่องสำหรับเก็บของส่วนตัวของพนักงาน 

ชั้นวางของไม้สักแท้สไตล์มินิมอล SH038 (อ่านรายละเอียดสินค้า)

เคล็ดลับ: อย่าลืมกำหนดจุดปลั๊ก รางไฟ และช่องร้อยสายใต้โต๊ะตั้งแต่ต้น เพื่อให้เฟอร์นิเจอร์สำนักงานวางแล้วเรียบร้อย ไม่มีสายรกรุงรัง หรือถ้าหากคุณเป็นสายมูตัวจริง ลองอ่านเทคนิคการจัดโต๊ะทำงานตามฮวงจุ้ย

3. วัดพื้นที่ให้ชัด จัดเฟอร์นิเจอร์ให้พอดีทุกตารางเมตรในออฟฟิศ

ก่อนสั่งทำหรือสั่งซื้อ วัดพื้นที่ให้ละเอียดและทำผังคร่าว ๆ จะช่วยประหยัดทั้งเงินและเวลา

• ขนาดโต๊ะและทางเดิน: โต๊ะทำงานเดี่ยวควรกว้างอย่างน้อย 120–140 ซม. ลึก 60–75 ซม. เพื่อวางจอ คีย์บอร์ด และเอกสารได้พอดี เว้นระยะทางเดินหลังเก้าอี้ประมาณ 90–120 ซม. เพื่อให้ลุกนั่งสะดวก หากอยากได้รายละเอียดเพิ่มเติม อ่านทิปส์ในการเลือกซื้อโต๊ะทำงานของเราได้เลย

• ตำแหน่งประตู หน้าต่าง ปลั๊ก: เลี่ยงการวางตู้สูงบังแสงธรรมชาติ และจัดโต๊ะสำนักงานให้เข้าถึงปลั๊กและพอร์ตเน็ตเวิร์กได้ ใช้รางและช่องเดินสายซ่อนใต้โต๊ะไม้สักเพื่อความเรียบร้อย

• พื้นที่แนวตั้ง หากพื้นที่จำกัด ให้ใช้ตู้เอกสารไม้สักแบบสูงและชั้นวางแบบลอยผนัง เพิ่มความจุโดยไม่รบกวนทางเดิน ชั้นวางของแบบเปิดช่วยให้หยิบจับง่ายและมองเห็นของได้ทันที

การคิดเผื่อการใช้งานจริงทั้งวัน ทั้งสัปดาห์ และการเติบโตของทีม จะทำให้การตกแต่งออฟฟิศครั้งนี้อยู่กับคุณได้ยาวนานและคุ้มค่า

4. ตรวจสอบคุณภาพและงานฝีมือของเฟอร์นิเจอร์ไม้สักแท้

คุณภาพคือหัวใจของไม้สักที่ดี เพราะส่งผลต่อความทนทานและภาพลักษณ์โดยตรง

• ประเภทของไม้สัก: เลือกไม้สักเก่าหรือไม้สักทองคุณภาพสูง หากงบประมาณจำกัด อาจเลือกไม้สักที่มีการอบแห้งอย่างได้มาตรฐาน เพื่อลดโอกาสเกิดปัญหาไม้บิดงอหรือแตกร้าว

• งานต่อไม้: ตรวจสอบรอยต่อของไม้ โดยเฉพาะบริเวณมุมโต๊ะและโครงสร้างของตู้ ควรเป็นรอยต่อที่แน่นหนา ไม่หลวม 

• พื้นผิวและการเคลือบ: ผิวไม้ควรเรียบเนียนสม่ำเสมอ การเคลือบผิว (เช่น การทาแลคเกอร์ หรือน้ำมันชักเงา) ควรทำได้อย่างทั่วถึงเพื่อป้องกันความชื้นและทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาด

5. วางไทม์ไลน์การจัดซื้อและติดตั้งอย่างมืออาชีพ

การสั่งซื้อเฟอร์นิเจอร์สำนักงานไม้สัก โดยเฉพาะงานสั่งทำพิเศษ (Custom-Made) มักใช้เวลานานกว่าเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูปทั่วไป การวางแผนไทม์ไลน์จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเปิดออฟฟิศให้ทันกำหนด อาจกำหนด Order Deadline โดยเผื่อเวลาสำหรับงานสั่งทำพิเศษไม้สักอย่างน้อย 60–90 วัน เพื่อให้ช่างมีเวลาในการคัดเลือกไม้และทำงานฝีมือได้อย่างประณีต นอกจากนี้ ควรเผื่อเวลาอย่างน้อย 1-2 วัน สำหรับการตรวจรับเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นอย่างละเอียด

การเลือกเฟอร์นิเจอร์สำนักงานไม้สักคุณภาพเยี่ยมคือการตัดสินใจทางธุรกิจที่สำคัญ ซึ่งส่งผลต่อภาพลักษณ์และประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน การจัดสรรงบประมาณเพื่อลงทุนในเฟอร์นิเจอร์ที่มีคุณภาพอย่างไม้สักแท้ คือการสร้างรากฐานความมั่นคงให้กับองค์กรของคุณในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะสำนักงานผู้บริหารที่สง่างาม ตู้เอกสารไม้สักที่แข็งแรง หรือชั้นวางของสำนักงานที่สวยงาม ไม้สักก็สามารถตอบโจทย์ทุกฟังก์ชันได้อย่างสมบูรณ์ 

Taweesak Furniture คือผู้เชี่ยวชาญด้านเฟอร์นิเจอร์ออฟฟิศไม้สักคุณภาพสูง ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดของงานฝีมือ เราพร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ครบทุกโซนการใช้งาน เพื่อยกระดับภาพลักษณ์ขององค์กรคุณให้ดูดีมีระดับอย่างยั่งยืน หากสนใจสั่งซื้อ หรืออยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ 

• Line@ : @taweesakwood

• Email : connect@taweesakfurniture.com

Facebook : www.facebook.com/taweesakfurniture