Last updated: 1 ต.ค. 2563 | 19522 จำนวนผู้เข้าชม |
บรรดาเฟอร์นิเจอร์ไม้สักหรือบ้านที่ทำจากไม้ การเลือกสีทาไม้ หรือสีย้อมไม้เป็นสิ่งสำคัญมากๆ เพราะจะช่วยยืดอายุวัสดุให้คงทน ใช้งานได้ยาวนานขึ้น อย่างไรก็ตามก่อนจะไปทำความรู้จักกับวิธีทาสีย้อมไม้ เทคนิคการย้อมสีไม้สัก หรือแม้แต่คำถามว่าสีย้อมไม้ยี่ห้อไหนดี มาทำความเข้าใจกันก่อนว่าสีย้อมไม้คืออะไรกันแน่
ในวงการก่อสร้าง ตกแต่งบ้าน หรือเฟอร์นิเจอร์ไม้ "สีย้อมไม้" แม้จะพูดว่า ‘สี’ แต่จริงๆ จะหมายถึงของเหลวที่มีลักษณะโปร่งใสที่ใช้สำหรับทาไม้ ในภาษาอังกฤษเรียกว่า Wood Stain เป้าประสงค์ในการใช้งานก็เพื่อที่จะรักษาสภาพเนื้อไม้ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น เมื่อทาแล้วจะยังเห็นลวดลายเดิมของไม้อยู่ ไม่ได้เป็นการย้อมสีของไม้ตามชื่อของมัน
เมื่อเข้าใจแล้วต่อไป เรามาทำความรู้จักกับการแบ่งประเภทพร้อมวิธีนำไปใช้ ซึ่งต้องแยกให้ชัดเจนระหว่าง
วิธีทาสีย้อมไม้ประเภทนี้ต้องผ่านการผสมกับทินเนอร์ราวๆ 10% เพื่อให้เกิดการละลายและซึมเข้าสู่ผิวไม้ได้เป็นอย่างดี สามารถใช้ได้ทั้งงานภายนอกและภายใน ทนต่อสภาพแวดล้อมแทบทุกประเภท เนื้อสีมีความชัดและไม่ค่อยหลุดไปจากสีเดิมของเนื้อไม้ ทาแค่ 2 รอบก็อยู่ตัว ทว่าจุดด้อยเล็กๆ คือ มีกลิ่นฉุนมาก แห้งช้า และสำคัญคือ เมื่อคิดว่าจะใช้สีย้อมไม้ยี่ห้อไหนดีแล้วก็ต้องเลือกทินเนอร์ยี่ห้อเดียวกันด้วย
เป็นสูตรสำเร็จสำหรับการย้อมสีไม้สักของคนมีเวลาน้อย เนื่องจากไม่ต้องผสมใดๆ ทั้งสิ้นก็ลงมือทาได้ทันที หรือถ้าต้องผสมก็อาจเติมน้ำลงไปนิดหน่อยเพื่อให้เกิดความเจือจาง ง่ายต่อการทา จุดเด่นคือ เนื้อด้านนอกจะมีลักษณะเหมือนฟิล์มเคลือบ จึงยึดเกาะได้ดีมากๆ ไม่ฉุน แห้งไว ไม่มีส่วนผสมของสารอันตราย เช่น ปรอท ตะกั่ว มั่นใจว่าปลอดภัยต่อผู้ใช้งานและผู้สัมผัส แต่จุดด้อยเล็กๆ คือ มักใช้กับงานภายในเท่านั้น และต้องลงสีทับหลายรอบ
สีย้อมไม้ประเภทนี้จะโปร่งแสง เมื่อทาแล้วจะออกเป็นกึ่งใสกึ่งด้าน ทนต่อแสงยูวี ให้อารมณ์ความเป็นธรรมชาติสูงจากลวดลายดั้งเดิมของตัววัสดุที่ทา มีสารป้องกันเชื้อรา ใช้ได้ทั้งภายในและภายนอก โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ไม้สัก ประตู หน้าต่าง เก้าอี้สนาม
มีความโปร่งแสงเช่นกัน ให้อารมณ์แบบธรรมชาติในสีสันคลาสสิก นิยมใช้กับงานไม้ที่ต้องการความคงทนทั้งทำจากไม้เนื้ออ่อนและแข็ง ไม่ว่าจะผิวขัดแล้วหรือยังไม่ได้ขัดก็สวยงาม กันน้ำได้ดี ป้องกันรังสียูวี มีสารป้องกันเชื้อรา ใช้ได้กับภายในและภายนอก แต่จะนิยมกับเฟอร์นิเจอร์หรือชิ้นส่วนที่ต้องสัมผัสกับสภาพอากาศรุนแรงบ่อยๆ จะไม้เก่าหรือใหม่ก็ไร้ปัญหา
เนื้อไม้จะดูเงางาม ตัวสีมีความโปร่งแสง เหมาะกับชิ้นงานที่มีลายไม้สวยๆ อย่างเฟอร์นิเจอร์ไม้สัก เพราะได้โชว์กันเต็มที่ ลายและสีสันดูสดขึ้น ทนแดด นอกจากเฟอร์นิเจอร์ลายสวยๆ ยังนิยมใช้ทาผนังบ้าน วงกบส่วนต่างๆ เพื่อให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้น
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าการทาสียอมไม้นั้น อาจไม่ได้หมายถึงการทาเพียงสีย้อมไม้แค่ชั้นเดียว โดยมากจะต้องมีการทาผลิตภัณฑ์หลายชั้น เช่น มีการลงน้ำยาปรับสภาพไม้ก่อน เป็นต้น
ทริคแรกที่สำคัญคือ การเลือกผลิตภัณฑ์ปรับสภาพผิวไม้ สีย้อมไม้ และน้ำยาเคลือบ นั้นควรเลือกไปในทิศทางเดียวกัน หากเลือกเป็นน้ำมันตั้งแต่ตัวแรก ที่เหลือที่ตามมาก็ควรเป็นน้ำมันทั้งหมด
ก่อนเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ใดๆ ควรทำความสะอาดพื้นผิวไห้สะอาด แห้ง และเรียบเนียน ก่อนจะทาน้ำยาปรับสภาพผิวไม้ลงไป
ทาสีย้อมไม้ด้วยแปรงทาสี ให้ทดสอบทาบริเวณเล็กๆ ก่อนเพื่อดูการซึบซับน้ำยาว่าเรียบร้อยดี ไม่เป็นปัญหา จึงค่อยทาได้ตามปกติให้ทั่วพื้นผิวที่ต้องการ ทาด้วยความระมัดระวังไปในทิศทางเดียวกันสม่ำเสมอ คอยระวังอย่าให้เกิดฟองอากาศหรือเลอะเทอะ
รอให้พื้นผิวไม้ค่อยๆ ซึมซับสีย้อมไม้ประมาณ 5-15 นาที ให้คอยสังเกตสีของไม้ไปด้วย ยิ่งทิ้งไว้นานพื้นผิวไม้จะมีสีเข้มมากขึ้น
หากได้สีที่พอใจแล้วให้ใช้ผ้าเช็ดน้ำยาส่วนเกินออก ไม่ปล่อยให้น้ำยาที่ไม่ถูกซึมซับให้กลายเป็นคราบ ทิ้งไว้จนกว่าจะแห้งสนิทอย่างน้อย 8 ชั่วโมง
หลังจาก 8 ชั่วโมงถ้าอยากถ้าสีย้อมไม้ซ้ำก็ทำได้ หรือถ้าหากพอใจในลักษณะและสีของพื้นผิวไม้แล้วก็ให้ใช้น้ำยาเคลือบเป็นขั้นตอนสุดท้ายเป็นอันเสร็จ
น้ำยาเคลือบเองก็เช่นกัน เหมือนกับสีย้อมไม้ ที่สามารถทาได้หลายรอบ แต่อย่าลืมว่าต้องทิ้งไว้อย่าน้อย 2 วัน ก่อนเริ่มเคลือบครั้งใหม่
เมื่อเข้าใจถึงประเภทและการใช้งานของสีย้อมไม้กันแล้ว ก็ลองดูว่าจะเลือกสีย้อมไหนยี่ห้อไหนดีที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ เพื่อให้ชิ้นงานออกมาสวยโดนใจตามแบบฉบับของตนเอง
ถ้าคุณชื่นชอบเฟอร์นิเจอร์ไม้ และกำลังมองหาเฟอร์นิเจอร์ไม้ชิ้นใหม่ อย่าลืมลองเยี่ยมชมแคทตาล็อคเฟอร์นิเจอร์ไม้สักคุณภาพเยี่ยมจากเรา Taweesak Furniture นะคะ เราทำเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นอย่างใส่ใจ และรู้จริงเรื่องเฟอร์นิเจอร์ไม้